วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

The Hobbit: The Desolation of Smaug


คำเตือน ! บทความนี้อาจมีการสปอยล์อยู่ กรุณามีสติระหว่างอ่าน


ภาคต่อกับมหากาพย์การทวงบ้านคืนของเหล่าคนแคระ โดยภาคนี้บิลโบและพองเพื่อนต้องเร่งเดินทางเพื่อเข้าไปยังเอเลบอร์ แต่ทว่าการเดินทางมันก็ไม่ง่ายเอาซะเลย ทั้งผจญกับฝูงออร์ค เอล์ฟป่า เหล่ามนุษย์ และมังกรร้ายสม็อก พวกบิลโบและธอรินจะฝ่าวิกฤตเหล่านี้ยังไงกันนะ !


เป็นหนังภาคต่ออีกเรื่องที่ทำออกมาได้สุดยอด โดยเนื้อเรื่องถ้าใครเคยอ่านคอมมิคหรือฟิคชั่นมาบ้างก็คงไม่ได้ผิดความคาดหมายนัก ส่วนตัวอ่านคอมมิคไปนิดหน่อยก็โอเคครับ สปอยล์ตัวเองไปนิดๆ โดยภาคนี้ต้องขอบอกว่าสม็อกผู้ยิ่งใหญ่ทำออกมายิ่งใหญ่จริงๆครับ น้ำเสียง ฉากพ่นไฟ อลังการโครตๆ ยังมีอีกหลายฉากที่ผมไม่อยากจะสปอยล์ออกไป แต่ขอเล่าพวกฉากที่มีในตัวอย่างแล้วกัน เช่นฉาก ถังลอยน้ำ CG สุดยอดไปเลยคร้าบ !!!


ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผมว่าสนุกกว่าภาคแรกนะ เพราะเนื้อเรื่องมันเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกำลังเรียกร้องหาฉากจบอันสมบูรณ์แบบ ยิ่งใครดู Lord of The Ring มาด้วยนี่จะเก็ทและแอบฟินในใจเพราะในเรื่องยังไงก็ยังมีเอี่ยวกับเจ้าแหวนครอบพิภพวงนี้ บวกกับบิลโบภาค ดูจะพึ่งพาได้ ฉลาด แถมตาไวกว่าภาคแรกมากทำให้ดูไม่เงอะๆงะๆแล้ว


หนังเรื่องนี้ผมบอกได้เลยว่าถ้าคุณได้ไปสัมผัส 3D ไม่ว่าระบบไหน RealD 3D, HFR 3D, IMAX 3D คุณจะได้รับความรู้สึกที่สุดยอด ภาพชัด ฉากทะลุจอเต็มเรื่องเลยทีเดียวครับ คุ้มครับบอกเลย ไม่ต้องกลัวเสียดายตัง


ต้องเรียกได้ว่าเนื้อเรื่องดี ภาพสวยคม ทุกอย่างลงตัวครับ และปูทางสำหรับภาคต่อไปได้อย่างสุดยอด ขอเชิญไปชม The Hobbit: The Desolation of Smaug

เรท IMDb ณ วันที่ 12/12/2013 8.9
ส่วนตัวผมให้ 8.7 ครับผม

วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Easy A



หากใครเคยรู้จักหรือได้ยินเกี่ยวกับ Scarlet letter มาบ้างก็คงจะพอนึกออก โดยหนังเรื่องนี้กล่าวคล้ายๆกันแต่เล่าในมุมตลกๆน่ารักโปกฮา ตัวอักษร A สีแดงนั่นเป็นตราแห่งความอัปยศ ในสมัยก่อนจะถูกบังคับให้ใส่ไว้เพื่อบอกเป็นนัยๆว่า อีนี่มันมีชู้นะ อีนี่มันคุณตัวนะ อะไรประมาณนั้น ซึ่งหนังมันเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ครับ




Olive สาวน้อยไฮสคูล เธอเป็นเด็กสาวใสไม่มีใครหนุ่มที่ไหนมอง แต่แหม่เธอดันโม้กับเพื่อนสนิทว่าเธอดันไปมีอะไรกับผู้ชายในช่วงวันหยุด แหม่ก็วันหยุดของเธอจริงๆมันโครตจะน่าเบื่อและแสนธรรมดา แต่ข่าวมันก็ไม่ได้หยุดที่ตรงนั้น แต่ถูกแม่สาวแสบได้ยิน และแน่นอนข่าวนั้นก็กระจายออกไปพรึบพรับ เธอกลายเป็นสาวดังในครายคุณตัว ไปในชั่วพริบตา งานนี้สาวน้อยเธอคงจะสุขไม่ออกเป็นแน่แท้ แต่มันจะมีซักกี่คนที่จะรู้ว่าจริงๆแล้วเธอมันแม่พระ และแสนดีสุดๆ


เอกลักษณ์เป็นที่สุดสำหรับหนังเรื่องนี้ เพราะจะให้ตัว Olive คุยกับคนดูและค่อยๆเล่าสารภาพทีละสเต็ปว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอบ้าง ยิ่งเล่ายิ่งฮาครับ ปวดท้องตัวเกร็งเลย


นี่เป็นหนังเปิดตัวที่ทำให้ผมได้รู้จักกับดาราหญิงคนโปรดของผม Emma Stone ซึ่งหลังจากดูเรื่องนี้ผมตกหลุมรักเธอแน่นอนครับ และติดตามหนังของเธอเกือบทุกเรื่อง เรียกได้ว่าคลั่งเลย ถึงแม้เธอจะไปคบหาดูใจกับหนุ่มหล่อสไปเดอร์แมน Andrew Garfield ก็เถอะ (ถึงตอนนี้ผมจะยังมีหวังก็เถอะ ฮา)

วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Snowpiercer



เมื่อการแก้ปัญหาโลกร้อนในอนาคตเกิดผิดพลาด ทั้งโลกกลายเป็นสีขาวโพลน สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้มตายเพราะความหนาวเย็น แต่ยังมีกลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่บนรถไฟกว่า 17 ปี แต่ทว่าบนรถไฟนั้นกลับเกิดการแบ่งชนชั้นกันเกิดขึ้น ฝ่ายหัวขบวนจะเป็นผู้นำฝ่ายท้ายขบวน แต่สภาพชีวิตของท้ายขบวนนั้นย่ำแย่ เพราะถูกกดขี่ข่มเหงสารพัด


เคอร์ทิส ชายหนุ่มผู้นำของฝั่งท้ายขบวนหวังจะปฏิวัติเพื่อบุกไปยังหน้าขบวนไปล้มวิลฟอร์ด เจ้าของรถไฟ โดยร่วมแรงร่วมใจกับทุกคนส่วนท้าย โดยระหว่างทางเขากลับพบปริศนาต่างๆเพิ่มขึ้น และได้เข้าช่วยเหลือพ่อลูกชาวเกาหลีจากการคุมขัง



ยัยครูนี่โหดได้ใจผมไปเลย >___<



เป็นหนัง Sci-fi ที่สื่อการเหยียดชนชั้นได้อารมณ์คล้ายๆ ชีวิตใน The Hunger Game คือมีการกดขี่กัน และต้องก่อการปฏิวัติ โดยตัวหนังโหดใช้ได้ เลือดสาด ฟาดฟันกันเต็มที่ กระสงกระสุนสาดกันเละเทะ ซึ่งฉากในรถไฟทำออกมาดูดีทั้งอึดอัดทั้งสวยหรูไปในตัวแล้วแต่โบกี้


มีฉากทำให้ช็อกอยู่นิดหน่อย แต่ฉากที่มีคุณป้าแว่นเมสันออกมานั้นเรียกเสียงฮาให้ผมได้ไม่น้อย ถือว่าทำออกมาเจ๋งเลยอะครับ และตัวหนังแอบนานนิดหน่อย อาจจะเพราะมันอยู่แค่บนรถไฟละมั้งนะ ส่วนปริศนากับเงื่อนงำนิดๆหน่อยๆก็ฝากให้ไปติดตามกันเองนะครับผม และตามเคย หนังเรื่องนี้สะท้อนการเหยียดชนชั้น เชื้อชาติ สีผิว และรวมไปถึงการใช้แรงงานเด็กด้วยครับ (ครบวงจร)



โดยหนังเรื่องได้เรทใน IMDB ไปสูงถึง 7.6
สำหรับตัวผมเองขอให้คะแนนไป 7.8 ครับผม
ขอให้สนุกกับการชมหนังเรื่องนี้ครับ