วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Planes




เมื่อโลกของ Cars ยังไม่จบ เหล่ารถซึ่งอาจจะจบเรื่องไปแล้ว แต่เจ้าเครื่องบินพวกนี้เพิ่งเริ่มเท่านั้น

เมื่อดัสตี้ เครื่องบินพ่นปุ๋ยจากบ้านนอกนิสัยดี มีความฝันอยากจะแข่งบินระดับโลก แต่เขาก็ยังไม่อยากจะหยุดมันแค่ความฝัน โดยการทำตามฝันนี้มีเพื่อนๆและคนรอบข้างเขาได้ช่วยเหลือไว้มากมาย และสำคัญที่สุดครูที่สอนเขาบิน สกิปเปอร์ เครื่องบินรบรุ่นคุณปู่


สำหรับในหนังแอนิเมชั่น ผมก็ชอบ Cars เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มาดูเรื่องนี้ผมก็ค่อนข้างคาดหวังไว้มาก แต่ดูๆไปผมกลับรู้สึกชอบ Carsทั้ง 1 และ 2 มากกว่า ไม่ใช่ว่าหนังทำออกมาไม่ดีนะครับ ดีเลย สนุกใช้ได้เลย เพียงแต่ความประทับใจตอนดูมันมากไม่เท่า แค่นั้นเอง



มันคือแอนิเมชั่นหนะครับ เพราะอย่างนั้นอย่าไปใส่ใจเรื่องความสมจริงอะไรซักเท่าไหร่เลย เพราะผมก็คิดว่าเครื่องบินพ่นหญ้าบินรอบโลกได้มันก็เกินจริงไปหน่อยแล้ว แต่ก็นะ ไม่โม้หนังก็ไม่สนุกสิ แต่ภาพกับฉากมันได้อารมณ์มากกว่าเจ้าพวกรถนะ ท้องฟ้า หน้าฝน หิมะตกอะไรพวกนี้ เครื่องบินทำออกมาได้สวยหรูใช้ได้เลยครับ


สำหรับคะแนนผมให้ 7.5/10 ครับผม อย่าพลาดละ เหล่าเครื่องบินรอคุณอยู่ !

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Escape Plan

คำเตือน ! บทความนี้อาจมีการสปอยล์อยู่ กรุณามีสติระหว่างอ่าน

ในเมื่อแต่ละคนมีพรสวรรค์ที่ต่างกัน แล้วเหตุไฉนคนเราจะมีคนที่มีความสามารถแหกคุกที่ไหนก็ได้ในโลกไม่ได้กันเล่า ?

เรย์ เบรสลิน นักแหกคุก เจ้าของธุรกิจความปลอดภัยและเขียนหนังสือเกี่ยวกับการแหกคุก หลายปีมานี้เขาได้แหกคุกต่างๆมามากมาย กว่า 10 แห่ง


จู่ๆวันนึงเบรสลินก็งานเข้า เมื่อเขาต้องรับงานที่คุกปริศนา โดยเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เขาถูกตัดขาดจากทีมระหว่างเดินทางไปคุก เมื่อรู้สึกตัวเขาก็อยู่ในคุกปริศนา แถมยังถอนตัวไม่ได้ เขาต้องคิดและจำเป็นต้องแหกคุกออกไปลากตัวคนที่ตั้งใจจะขังเขาไว้ที่นี่ตลอดกาล



แต่อะไรๆก็ไม่ได้ง่ายดาย เพราะที่นี่ผู้คุมโหดและการป้องกันเข้มมาก ซึ่ง รอทเมเยอร์ ขาใหญ่ของที่นี่ช่วยเหลือเบรสลินไว้ โดยเบรสลินกับรอทเมเยอร์ต้องช่วยเหลือกันและกันเพื่อออกจากคุกแห่งนี้


เป็นหนังที่น่าสนใจมากเรื่องนึงครับ เพราะในหนังช่วงต้นจะเป็นการใช้สมองซะมาก แต่ท้ายเรื่องยิงกันเกลื่อน เป็นการผสมช่วงคิดกับช่วงบู๊ได้พอดีๆ ไม่น่าแปลกที่ได้ คะแนนจาก imdb ไปถึง 7.4

ส่วนตัวผมเองให้ 8/10 ครับผม

วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556

The Hangover Trilogy



แก๊งหมาป่า ประกอบไปด้วย ฟิล ดั๊ก อลัน สตู สี่คนนี้จะนำความฮา ความบ้า และเรื่องประหลาดมาให้คุณชมในหนังไตรภาค The Hangover ที่กวาดรายได้ไปถล่มทลาย



The Hangover
ภาคแรกของหนังชุดนี้ โดยมีเนื้อเรื่องอยู่ว่า ดั๊ก กำลังจะแต่งงาน แก๊งหมาป่าจึงรวมตัวกันไปเลี้ยงสละโสดที่ เวกัส แต่เรื่องราวไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อทุกคนตื่นเช้ามาหลังจากไปสนุกระวิงกัน กลับพบว่า ดั๊ก นั้นหายตัวไป และแก๊งหมาป่าเข้าไปพัวผันกับเชา เจ๊กตาตี่สุดกวนโอ๊ย และต้องตามหา ดั๊ก กลับมาให้ทันงานแต่ง


สำหรับในตอนที่ดูครั้งแรกของหนังเรื่องนี้ พบอยากบอกว่าสนุกมาก ตื่นเต้น ไม่เคยเจอหนังที่เล่าเรื่องแนวๆนี้ ทำให้นอกจากฮาแล้วยังตื่นเต้นไปพร้อมๆกันด้วย แถมยังชอบมีหักมุม และเก็บรายละเอียดน้อยๆไว้ให้คนดูประหลาดใจ


The Hangover Part 2
ภาคต่อของหนังสุดฮา โดยเนื้อเรื่องมีอยู่ว่า สตู กำลังจะไปแต่งงานและฮันนีมูนที่ไทย ทำให้แก๊งหมาป่าต้องยกพลไปประเทศไทย ซึ่งคืนก่อนแต่งงานของสตู ก็เกิดเข้าอีหรอบเดิม โดยทุกคนไปโผล่ในกรุงเทพ ซึ่งคราวนี้กลายเป็นน้องชายของแฟนสตูที่หายตัวไป แก๊งหมาป่าต้องเข้าไปผัวพันกับเชาอีกครั้ง และหากสตูหาตัวน้องชายของแฟนเขากลับไปไม่ได้ งานแต่งต้องเป็นอันชวดไป

แน่นอนเลยครับ ลอกภาคแรกมาอย่างเนียนๆ แต่ก็ยอมรับว่ายังสนุก เพราะฮากับอลัน แค่เห็นหุ่นกับหน้าพี่แกผมก็อยากจะลงไปกลิ้งแล้ว


The Hangover Part 3
ภาคสุดท้ายของหนังชุดนี้ โดยเนื้อเรื่องมีอยู่ว่า หลังจากพ่อของอลันตาย แก๊งหมาป่าจึงต้องพาอลันไป บำบัดที่อริโซน่า แต่ระหว่างทาง กลับถูกโจรลักพาตัวไป ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเจ๊กคนเดิม คือเชา ที่ได้แหกคุกออกมาจากกรุงเทพ ซึ่งดั๊กถูกจับเป็นตัวประกันต้องแลกตัวเชากับดั๊ก แก๊งหมาป่าที่เหลือจึงต้องไปลากตัวเชากลับมาให้ได้


ดีกว่าภาคที่สองนะครับ เพราะเปลี่ยนเนื้อเรื่องใหม่ แต่ยังคงใส่ใจในรายละเอียดในภาคก่อนๆ และยังเชื่อมเนื้อเรื่องได้อย่างลงตัว แถมยังอัพเกรดความบ้าระห่ำของเชา ที่ผมดูแล้วอยากจะยิงไอ้เจ๊กนี่ทิ้งซะจริง กวนบาทาจริงๆ (ใครดูภาคนี้แล้วต้องดูให้ถึงตอนจบเลยนะครับ ตรงของแถมนี่ฮาตกเก้าอี้เลยทีเดียว)

วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Good Will Hunting



บางทีคุณอาจจะไม่รู้ว่ายังมีอัจฉริยะบางคน ไม่ได้ต้องการรางวัลโนเบล ไม่ได้ต้องการชื่อเสียง เกียรติยศ และเงินทอง และยังมีอัจฉริยะบางคนที่ยังออกไปกินเหล้า เที่ยวเตร่กับเพื่อนและมีเรื่องชกต่อย


วิลล์ ฮันติ้ง ภารโรงหนุ่มจากมหาวิทยาลัย MIT มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทางด้านวิศวะอย่างมาก ซึ่งวิลล์เองไม่ได้เป็นนักศึกษาที่ใดแถมเขายังเป็นเด็กเสเพล มีเรื่องชกต่อยเป็นประจำ จนวันหนึ่งวิลล์เกิดไปแก้โจทย์ปัญหาที่ไม่มีนักศึกษาคนใดทำได้ ซึ่งนั่นทำให้ศาสตราจารย์เจอร์รี่ นักคณิตศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบลสนใจในตัวเขานั่นเอง

แต่จุดเปลี่ยนในชีวิตของเขาเริ่มต้นเมื่อเขาได้พบกับฌอน จิตแพทย์ที่ศาสตราจารย์เจอร์รี่แนะนำให้มาช่วยเหลือวิลล์ ซึ่งฌอนเองก็เป็นเด็กมีปัญหาแบบวิลล์มาก่อน เมื่อทั้งสองคนมาพบกัน ความผูกพันธ์ระหว่างทั้งสองคนก็เริ่มขึ้น


หนังเรื่องนี้การันตีคุณภาพด้วยรางวัล Academy Awards ถึง 2 รายการ และมีนักแสดงชื่อดังอย่าง
Matt Damon, Ben Affleck และ Robin Williams แสดงนำ

ต้องขอยอมรับว่าผมไม่ค่อยได้เสียน้ำตาให้กับหนังเรื่องไหนง่ายนัก แต่ว่าเรื่องนี้กลับทำผมต่อมน้ำตาแตก เพราะมันช่างซึ้งกินใจเสียจริงๆ แถมยังให้ข้อคิดกับคนเราได้อยู่หลายข้อ


ผมอยากให้คุณได้ไปดูว่าวิลล์ตัดสินใจอย่างไรกับชีวิตของเขาเมื่อเขาได้คนดีๆอย่างฌอนแนะนำและคอยสอนเขา ผมการันตีนั่งยันนอนยันว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้คุณประทับใจไปได้หลายวันเลยครับผม

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

About Time

คำเตือน ! บทความนี้อาจมีการสปอยล์อยู่ กรุณามีสติระหว่างอ่าน


เมื่อทิมหนุ่มน้อยจากสก็อตแลนด์อายุครบ 21 พ่อของเขาได้บอกความลับสำคัญมากให้แก่เขา คือผู้ชายในตระกูลนี้สามารถย้อนเวลาได้ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล

ทิมเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างจะมีปัญหาด้านความรัก จนกระทั่งเขาได้ย้ายไปทำงานที่ลอนดอน ซึ่งนั่นเองทำให้เขาพบกับรักแท้ของเขา แมรี่ ทั้งคู่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ซึ่งเขาก็ได้ย้อนเวลาทำให้รักของเขานั้นสมบูรณ์แบบ ถึงแม้บางครั้งเขาจำเป็นต้องย้อนเวลาทั้งๆที่เขาเองไม่อยากจะทำ


หนังเรื่องนี้แสดงให้ผมเห็นถึงด้านดีอยู่หลายด้าน เช่นตัวทิมเองนั้นถึงแม้จะย้อนเวลาได้แต่ก็ไม่สามารถจะช่วยใครพร้อมกับลูกได้เพราะลูกเขาจะกลายเป็นอีกคนไป ซึ่งนั้นเองก็เป็นกฏทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรตามใจได้ และที่สำคัญคือความรักอันจริงใจของเขาต่อแมรี่ และครอบครัว


ฉากที่ถ่ายทำมีในลอนดอนและสก็อตแลนด์ ซึ่งสวยๆทั้งนั้นเลยครับ วิวและบรรยากาศดีมากๆ ดูแล้วเพลินไปกับหนังเลย ร่วมถึงเพลงประกอบที่น่ารักมากๆ ฟังแล้วยิ้มตามเลย


ส่วนตัวผมเองก็ชอบ Rachel McAdams อยู่แล้ว ทำให้หลงรักหนังเรื่องนี้ไม่ยากเลย แถมเธอยังเล่นได้ดีมากๆ ในฉากแต่งงาน และนี่เป็นเพลงประกอบในเรื่องขอฝากไว้อยากให้ชมกันครับ



สำหรับคะแนนผมให้ 9/10 เลยครับสำหรับหนังรักเรื่องนี้ ได้ครบทั้งตลก หวานซึ้ง และดราม่าในเรื่องเดียวเลยครับผม

Arrow



เมื่อโอลิเวอร์ ควีน ลูกชายของเศรษฐีแห่ง Starling City ที่ได้รอดชีวิตจากเรือล่ม โดยการอยู่บนเกาะถึง 5 ปี แต่เขากลับมาพร้อมกับความลับ และทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม เขากลับมาล้างแค้นให้กับพ่อและปกป้องเมืองที่เขารัก ในฐานะเดอะฮู้ด

การเล่าเรื่องจะเป็นแบบปัจจุบันปนกับเรื่องราวบนเกาะของโอลิเวอร์ ซึ่งจุดนี้เองทำให้ตัวเรื่องน่าสนใจขึ้นมากๆ เพราะจะได้ทราบเรื่องราวต่างๆไปพร้อมๆกัน


แอร์โรว หรือกรีนแอร์โรวเป็นซุปเปอร์ฮีโร่จาก DC ซึ่งเขาเป็นเหมือนแบทแมนคือไม่มีพลังพิเศษ แต่มาจากทักษะที่ต้องฝึกฝนเท่านั้น แน่นอนว่าโดนกระสุนแล้วมีร่วงแน่ๆ นั่นทำให้แอร์โรวและแบทแมนค่อนข้างจะเป็นฮีโร่ที่มีมิติมากกว่าตัวอื่นๆของค่ายนั่นเอง


ตัวซีรีย์มีการทำออกมาอย่างละเอียดดีมากๆ ฉากต่างๆอย่างบนเกาะ ที่ทำออกมาสมจริง ฉากต่อสู้ที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมเลย เพราะใส่เอฟเฟคได้สมจริงไม่โอเวอร์จนเกินจริง

นักแสดงก็ได้หนุ่มมาดเท่ Stephen Amell แสดงนำเป็นโอลิเวอร์ ซึ่งต้องบอกว่าหุ่นพี่แกเป๊ะจริงๆ ทำให้สาวๆที่ไม่เคยดูซุปเปอร์ฮีโร่หลงมาดูอย่างไม่ยากเย็น



ต้องบอกว่าเป็นซีรีย์ที่มีกระแสตอบรับดีมากๆ ทำให้แฟนๆ DC ใจชื้นเพราะอาจจะมีการทำซีรีย์ในค่ายต่อออกมาให้ชมกันอีกหลายเรื่อง ส่วนแผ่นลิขสิทธิ์นั้นใกล้จะออกแล้วครับของไทย ส่วนต่างประเทศออกมาได้หลายเดือนแล้ว และตอนนี้กำลังฉายซีซันที่ 2 อยู่นั่นเอง

วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

New Girl



ซีรีย์ตลกจากทาง FOX ซึ่งซีซันแรกออกฉายตั้งแต่ปี 2011 ปัจจุบันกำลังฉายซีซันที่ 3 ซึ่งทางประเทศไทยยังคงมีขายแค่ซีซันแรกครับผม ส่วนซีซันสองอาจจะเป็นสิ้นปีนี้ ซึ่งเนื้อเรื่องแสนง่ายโดย


เจส คุณครูสาวสุดสวยเพี้ยน ที่เพิ่งอกหักจากแฟนที่คบกันมานาน ทำให้เธอต้องย้ายมาอยู่ในห้องใหม่ที่มี หนุ่มๆ 3 คนอาศัยอยู่


นิค ชายหนุ่มสุดเซอร์ ชอบมองโลกในแง่ร้าย ทำหน้าบูดประจำ และเป็นช่างประจำห้อง ตัวเขาเองก็เพิ่งอกหักจากแฟนเช่นกัน ทำให้นิคมีปัญหาเมาแล้วเรื้อนอยู่บ่อยครั้ง



ชมิดส์ หนุ่มเจ้าสำอาง แม่บ้านและแม่ครัวประจำห้อง เขาเป็นคนที่เจ้าระเบียบและเจ้ากี้เจ้าการสุดๆ แถมยังรักความสะอาดเสียจนคนอื่นๆคิดว่าเขาเป็นเกย์ (คนนี้ใจแมนนะขอบอก อิอิ)



วินส์ตั้น หนุ่มผิวดำผู้เป็นโค้ชประจำห้อง เขาเป็นนักกีฬาบาสที่เพิ่งจะอำลาวงการ และกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในความเป็นจริง เขาเป็นหนุ่มสุดซวยที่ปรับตัวไม่ทันโลก ความสามารถที่เขานำไปสมัครงานคือการพิมพ์และใช้ Microsoft Word ได้


ซีซี นางแบบลูกครึ่งอินเดีย เป็นเพื่อนสนิทของเจส ที่หนุ่มๆในห้องเจสเห็นแล้วจะละลาย ปกติซีซีเธอจะเป็นสาวเริดที่หนุ่มๆต้องมาเอาอกเอาใจ แต่เหมือนเธอจะแอบปิ๊งชมิดส์เข้าแล้ว !?



โดยในเรื่องจะแสดงความเพี้ยนของผองเพื่อนสุดกวนของเจส แต่ว่าทั้งหมดนั้นมีความรักและความสัมพันธ์ที่สนิทกันมาก ซึ่งผมไม่อยากให้คุณพลาดความสนุกของซีรีย์ตลกอารมณ์ดี ที่ทำออกมาได้ดีไม่แพ้เรื่องไหนๆ ในซีรีย์นี้มันมีสเน่ห์ในตัวมันเองที่ยากจะเอาไปเทียบกับเรื่องอื่นครับ

Arn : Knight Templar



อาร์น เด็กชายผู้เกิดในตระกูลขุนนาง เขาถูกฝึกการต่อสู้ตั้งแต่ยังเด็กโดยอัศวินเทมพลาที่ปลดเกษียณ ชีวิตเขาต้องพลิกผลันเมื่อต้องร่วมต่อสู้ในสงครามครูเซด ณ ดินแดนศักสิทธิ์ เยรูซาเลม ซึ่งการเป็นเทมพลาของเขามอบประสบการณ์และความสามารถให้แก่เขามากมาย


แรกเริ่มเขาและเซซีเลีย คู่หมั้นของเขามีความสัมพันธ์ลับต่อกันจนเธอท้อง ต่อมาเขาถูกกล่าวหาว่าไปมีความสัมพันธ์กับพี่สาวของเซซีเลีย ทำให้เขาและเซซีเลียถูกขับออกจากศาสนา และต้องไถ่บาป โดยอาร์นจะถูกส่งไปเป็นอัศวินเทมพลา ส่วนเซซีเลียต้องเป็นแม่ชี


ในเนื้อเรื่องนั้นเป็นช่วงสงครามครูเซดครั้งที่ 3 ที่ซาลาดิน สุลต่านแห่งโลกอิสลามเข้ายึดเยรูซาเลมคืนจากศาสนาคริสต์ได้


ในระหว่างที่ผมดู ผมรู้สึกมีความสุขมากๆ เพราะแต่ละฉากนั้นสวยงามทั้งนั้นเลย ทั้งฉากในป่า และทะเลทราย แต่ฉากต่อสู้ต้องยอมรับว่ายังไม่อลังการเท่ากับหนังเรื่องอื่นๆ แต่มีดีทางด้านดราม่าในเนื้อเรื่องของอาร์นครับ (ลุ้นว่าจะรอดกลับไปเจอเมียมั้ย อิอิ) 


ต้องบอกว่าอาร์นของเราโชคดีมากๆที่ไปเข้าตาท่านซาลาดิน เพราะอาร์นได้ไปช่วยท่านไว้ตอนเริ่ม ซึ่งทั้งสองคนก็แสดงด้านความเป็นนักรบออกมา คือมีความมีสัจจะต่อกันและกัน


หนังเรื่องนี้เป็นของสวีเดน ออกฉายตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งตอนจบก็แอบมีเล่าถึงการรวมประเทศเสริมท้ายไปตอนจบเรื่องอีกด้วย ถึงแม้จะเก่าแต่ก็ขอยอมรับว่าเป็นหนังที่ดีอีกเรื่องครับผม

Tomboy



เมื่อลอเรนซ์ เด็กหญิงคนหนึ่ง เธอได้ย้ายมาใหม่ เธอพบกับเพื่อนๆใหม่ หนึ่งในนั้นคือลิซ่า สาวน้อยข้างๆบ้าน แต่เธอกลับโกหกไปว่าเธอชื่อมิคาเอล และเธอพยายามจะเป็นเด็กชายมิคาเอลกลมกลืนไปกับเด็กผู้ชายเพื่อนๆลิซ่า



ลอเรนซ์ได้ย้ายมาอยู่อพาร์ทเม้นใหม่กับคุณพ่อ น้องสาว และคุณแม่ที่กำลังตั้งท้อง

คุณจะรู้ได้ยังไงว่าเด็กคนนี้เป็นผู้หญิง เมื่อเขาไว้ผมสั้น ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น และรองเท้าผ้าใบ ซึ่งทั้งหมดนั้นไม่มีสีชมพู นี่คือทอมสินะ?



ในหนังคุณจะได้พบกับการเปลี่ยนแปลงของลอเรนซ์ เธอพยายามจะเป็นเด็กผู้ชาย แต่ก็ยังมีความอ่อนโยนต่อน้องสาวของเธอ รวมถึงความอบอุ่นที่พบได้ในครอบครังนี้ รวมถึงความสัมพันธ์กับลิซ่าเมื่อทั้งสองเกิดปิ๊งกัน


เป็นหนังฝรั่งเศสที่ทำออกมาได้ดีมากๆ ทั้งเนื้อหาที่พยายามจะสื่อ ฉาก และเสียงต่างๆ รวมถึงนักแสดงอีกด้วย ดูได้เพลินตามากๆครับผม

วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Gravity

คำเตือน ! บทความนี้อาจมีการสปอยล์อยู่ กรุณามีสติระหว่างอ่าน


เมื่อนาซ่าส่งคนไปทำภารกิจบนอวกาศ ระหว่างนั้นเองรัซเซียก็ได้ระเบิดดาวเทียมตัวเองทิ้ง ทว่าซากดาวเทียมนั้นกลับส่งผลเป็นลูกโซ่ มันพุ่งชนดาวเทียมอื่นๆจนพังพินาศ ซึ่งแน่นอนทีมสำรวจของนาซ่าเองก็ไม่รอดเช่นกัน แต่ดร.สโตน ผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวจะต้องหาทางกลับคืนสู่พื้นโลกของตนให้ได้


ภาพยนต์ที่ดีมากๆ ทั้งแง่การนำเสนอ มุมกล้อง และความสมจริงในอวกาศ จนผมแทบจะคิดว่าไปถ่ายทำที่นู่นเลยทีเดียว เงียบสงบ แต่ดนตรีในช่วงที่มีเสียงนั้นเข้ากับหนังได้ดีมากๆ

อวกาศเป็นทั้งที่ที่น่ากลัวและสวยงาม เพชรฆาตและสถานที่อันเงียบสงบ ฉากระทึกใจที่มีให้คุณได้ลุ้นอยู่ตลอด หากคุณคว้าที่จับไว้ไม่ได้ไม่มีโอกาศให้คุณแก้ตัว คุณจะหลุดลอยไปในอวกาศอันแสนไกล


คะแนนผมให้ 9/10 เลยครับผม ระทึกใจและสมจริงมากๆ สำหรับ 3D ก็มีฉากวูบวาบอยู่นิดหน่อยไม่มากนะครับ แต่โลกมองแบบ 3D แล้วสวยมากกก ( Sandra Bullock ในหนังหุ่นดีมากกเลยครับ แอบปลื้มส่วนตัว)

วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

The Pursuit of Happyness



หนังที่มอบแรงบัลดาลใจให้กับคนที่สู้ชีวิต นำแสดงโดยวิลล์ สมิธ และลูกชายของเขาเอง โดยหนังเรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริงของ Chris Paul Gardner ซึ่งในเรื่องจะเล่าถึงชายที่ถูกภรรยาทิ้ง และยังต้องเลี้ยงลูกชายอายุ 5 ขวบ ซึ่งระหว่างนั้นเขาถังแตก จากคนที่เคยพยายามสร้างเนื้อสร้างตัวกลับต้องหมดตัว กลายเป็นคนไร้บ้านและต้องหาทางดิ้นรนเพื่อผ่านพ้นชีวิตอันแสนโหดร้ายนี้


ต้องขอบอกว่าเป็นหนังที่ทำออกมาได้ดีมากๆ สะท้อนแง่คิดและผลักดันให้คนก้าวไปข้างหน้าไม่ว่าอุปสรรคนั้นมันจะยากสักเท่าไร เป็นหนังดราม่าที่ผมอยากจะยกนิ้วให้เลยครับ วิลล์ สมิธก็เล่นออกมาได้ดีมากๆ


สำหรับหนังชีวประวัติต้องขอชมครับ แม้ว่าจะเปลี่ยนเนื้อเรื่องไปบ้าง ที่จริง Chris มีลูกชายอายุ 2 ขวบซึ่งในเรื่องอายุ 5 ขวบ แต่คงเป็นเพราะจะได้มีการสื่อสารกันได้ ซึ่งผมก็มองว่าเป็นจุดดีเพราะจะได้มองมุมมองของเด็กแถมยังทำออกมาได้ดีเสียด้วยครับ

ใครที่กำลังท้อแท้และหมดหวัง ผมอยากจะให้คุณดูหนังเรื่องนี้ อาจจะเป็นแรงผลักดันให้คุณทำสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ก็ได้ครับ


คำคมจากในเรื่อง "อย่าปล่อยให้ใครมาบอกลูกว่าอะไรที่ลูกไม่สามารถทำไม่ได้ เพียงเพราะว่าพวกเขาทำไม่ได้"