วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

The Hobbit: The Desolation of Smaug


คำเตือน ! บทความนี้อาจมีการสปอยล์อยู่ กรุณามีสติระหว่างอ่าน


ภาคต่อกับมหากาพย์การทวงบ้านคืนของเหล่าคนแคระ โดยภาคนี้บิลโบและพองเพื่อนต้องเร่งเดินทางเพื่อเข้าไปยังเอเลบอร์ แต่ทว่าการเดินทางมันก็ไม่ง่ายเอาซะเลย ทั้งผจญกับฝูงออร์ค เอล์ฟป่า เหล่ามนุษย์ และมังกรร้ายสม็อก พวกบิลโบและธอรินจะฝ่าวิกฤตเหล่านี้ยังไงกันนะ !


เป็นหนังภาคต่ออีกเรื่องที่ทำออกมาได้สุดยอด โดยเนื้อเรื่องถ้าใครเคยอ่านคอมมิคหรือฟิคชั่นมาบ้างก็คงไม่ได้ผิดความคาดหมายนัก ส่วนตัวอ่านคอมมิคไปนิดหน่อยก็โอเคครับ สปอยล์ตัวเองไปนิดๆ โดยภาคนี้ต้องขอบอกว่าสม็อกผู้ยิ่งใหญ่ทำออกมายิ่งใหญ่จริงๆครับ น้ำเสียง ฉากพ่นไฟ อลังการโครตๆ ยังมีอีกหลายฉากที่ผมไม่อยากจะสปอยล์ออกไป แต่ขอเล่าพวกฉากที่มีในตัวอย่างแล้วกัน เช่นฉาก ถังลอยน้ำ CG สุดยอดไปเลยคร้าบ !!!


ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผมว่าสนุกกว่าภาคแรกนะ เพราะเนื้อเรื่องมันเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกำลังเรียกร้องหาฉากจบอันสมบูรณ์แบบ ยิ่งใครดู Lord of The Ring มาด้วยนี่จะเก็ทและแอบฟินในใจเพราะในเรื่องยังไงก็ยังมีเอี่ยวกับเจ้าแหวนครอบพิภพวงนี้ บวกกับบิลโบภาค ดูจะพึ่งพาได้ ฉลาด แถมตาไวกว่าภาคแรกมากทำให้ดูไม่เงอะๆงะๆแล้ว


หนังเรื่องนี้ผมบอกได้เลยว่าถ้าคุณได้ไปสัมผัส 3D ไม่ว่าระบบไหน RealD 3D, HFR 3D, IMAX 3D คุณจะได้รับความรู้สึกที่สุดยอด ภาพชัด ฉากทะลุจอเต็มเรื่องเลยทีเดียวครับ คุ้มครับบอกเลย ไม่ต้องกลัวเสียดายตัง


ต้องเรียกได้ว่าเนื้อเรื่องดี ภาพสวยคม ทุกอย่างลงตัวครับ และปูทางสำหรับภาคต่อไปได้อย่างสุดยอด ขอเชิญไปชม The Hobbit: The Desolation of Smaug

เรท IMDb ณ วันที่ 12/12/2013 8.9
ส่วนตัวผมให้ 8.7 ครับผม

วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Easy A



หากใครเคยรู้จักหรือได้ยินเกี่ยวกับ Scarlet letter มาบ้างก็คงจะพอนึกออก โดยหนังเรื่องนี้กล่าวคล้ายๆกันแต่เล่าในมุมตลกๆน่ารักโปกฮา ตัวอักษร A สีแดงนั่นเป็นตราแห่งความอัปยศ ในสมัยก่อนจะถูกบังคับให้ใส่ไว้เพื่อบอกเป็นนัยๆว่า อีนี่มันมีชู้นะ อีนี่มันคุณตัวนะ อะไรประมาณนั้น ซึ่งหนังมันเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ครับ




Olive สาวน้อยไฮสคูล เธอเป็นเด็กสาวใสไม่มีใครหนุ่มที่ไหนมอง แต่แหม่เธอดันโม้กับเพื่อนสนิทว่าเธอดันไปมีอะไรกับผู้ชายในช่วงวันหยุด แหม่ก็วันหยุดของเธอจริงๆมันโครตจะน่าเบื่อและแสนธรรมดา แต่ข่าวมันก็ไม่ได้หยุดที่ตรงนั้น แต่ถูกแม่สาวแสบได้ยิน และแน่นอนข่าวนั้นก็กระจายออกไปพรึบพรับ เธอกลายเป็นสาวดังในครายคุณตัว ไปในชั่วพริบตา งานนี้สาวน้อยเธอคงจะสุขไม่ออกเป็นแน่แท้ แต่มันจะมีซักกี่คนที่จะรู้ว่าจริงๆแล้วเธอมันแม่พระ และแสนดีสุดๆ


เอกลักษณ์เป็นที่สุดสำหรับหนังเรื่องนี้ เพราะจะให้ตัว Olive คุยกับคนดูและค่อยๆเล่าสารภาพทีละสเต็ปว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอบ้าง ยิ่งเล่ายิ่งฮาครับ ปวดท้องตัวเกร็งเลย


นี่เป็นหนังเปิดตัวที่ทำให้ผมได้รู้จักกับดาราหญิงคนโปรดของผม Emma Stone ซึ่งหลังจากดูเรื่องนี้ผมตกหลุมรักเธอแน่นอนครับ และติดตามหนังของเธอเกือบทุกเรื่อง เรียกได้ว่าคลั่งเลย ถึงแม้เธอจะไปคบหาดูใจกับหนุ่มหล่อสไปเดอร์แมน Andrew Garfield ก็เถอะ (ถึงตอนนี้ผมจะยังมีหวังก็เถอะ ฮา)

วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Snowpiercer



เมื่อการแก้ปัญหาโลกร้อนในอนาคตเกิดผิดพลาด ทั้งโลกกลายเป็นสีขาวโพลน สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้มตายเพราะความหนาวเย็น แต่ยังมีกลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่บนรถไฟกว่า 17 ปี แต่ทว่าบนรถไฟนั้นกลับเกิดการแบ่งชนชั้นกันเกิดขึ้น ฝ่ายหัวขบวนจะเป็นผู้นำฝ่ายท้ายขบวน แต่สภาพชีวิตของท้ายขบวนนั้นย่ำแย่ เพราะถูกกดขี่ข่มเหงสารพัด


เคอร์ทิส ชายหนุ่มผู้นำของฝั่งท้ายขบวนหวังจะปฏิวัติเพื่อบุกไปยังหน้าขบวนไปล้มวิลฟอร์ด เจ้าของรถไฟ โดยร่วมแรงร่วมใจกับทุกคนส่วนท้าย โดยระหว่างทางเขากลับพบปริศนาต่างๆเพิ่มขึ้น และได้เข้าช่วยเหลือพ่อลูกชาวเกาหลีจากการคุมขัง



ยัยครูนี่โหดได้ใจผมไปเลย >___<



เป็นหนัง Sci-fi ที่สื่อการเหยียดชนชั้นได้อารมณ์คล้ายๆ ชีวิตใน The Hunger Game คือมีการกดขี่กัน และต้องก่อการปฏิวัติ โดยตัวหนังโหดใช้ได้ เลือดสาด ฟาดฟันกันเต็มที่ กระสงกระสุนสาดกันเละเทะ ซึ่งฉากในรถไฟทำออกมาดูดีทั้งอึดอัดทั้งสวยหรูไปในตัวแล้วแต่โบกี้


มีฉากทำให้ช็อกอยู่นิดหน่อย แต่ฉากที่มีคุณป้าแว่นเมสันออกมานั้นเรียกเสียงฮาให้ผมได้ไม่น้อย ถือว่าทำออกมาเจ๋งเลยอะครับ และตัวหนังแอบนานนิดหน่อย อาจจะเพราะมันอยู่แค่บนรถไฟละมั้งนะ ส่วนปริศนากับเงื่อนงำนิดๆหน่อยๆก็ฝากให้ไปติดตามกันเองนะครับผม และตามเคย หนังเรื่องนี้สะท้อนการเหยียดชนชั้น เชื้อชาติ สีผิว และรวมไปถึงการใช้แรงงานเด็กด้วยครับ (ครบวงจร)



โดยหนังเรื่องได้เรทใน IMDB ไปสูงถึง 7.6
สำหรับตัวผมเองขอให้คะแนนไป 7.8 ครับผม
ขอให้สนุกกับการชมหนังเรื่องนี้ครับ

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Silver Lining Playbook

คำเตือน ! บทความนี้อาจมีการสปอยล์อยู่ กรุณามีสติระหว่างอ่าน



ต้องยอมรับว่าผมกังขาว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงได้รางวัลและถูกกล่าวถึงอยู่เยอะขนาดนี้ จนผมได้ดูกับตาตัวเองถึงได้เข้าใจ


หนังกล่าวถึง Pat และ Tiffany เมื่อชายหญิงเพี้ยนๆ โคจรมาเจอกัน โลกนี้ก็สวยงามและน่าอยู่ขึ้น การดำเนินเรื่องแบบชิวๆ ทำให้คุณรู้สึกสบายๆไปกับหนัง แต่มันเป็นความสบายๆที่ผสมระหว่างดราม่า และมุขตลกเล็กน้อยที่ค่อยๆเติมให้กับคุณ บวกกับมีเพลงประกอบในเรื่องที่คอยเพิ่มความน่ารักเข้าไป เหมือนกับการจิบชาดูธรรมชาติในยามบ่าย และเปิดเพลงคลอไปเบาๆ ยังไงยังงั้นเลย

Pat ชายหนุ่มที่เพิ่งออกมาจากสถานบำบัด เพราะเขาดันไปทำร้ายชู้ของภรรยาเก่า และมีปมเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่หลังจากเขาออกมาเขาก็ตั้งใจจริงและแน่วแน่ว่าเขาจะต้องกลับไปคืนดีกับภรรยาให้จงได้ แต่มันดันไม่ง่ายอย่างนั้นเมื่อเขาต้องไปเจอกับ Tiffany สาวสวยที่สามีเพิ่งจะตายจากไป เธอเองก็ต้องไปสถานบำบัด เมื่อโลกมันโครจรมาเจอกัน โดยทั้งคู่ต้องคอยช่วยเหลือกันซึ่งนั่นก็ค่อยๆก่อหวอดความรักของทั้งคู่ขึ้น


ไม่ใช่หนังรักโรแมนติกอย่างที่คุณคิด ไม่ต้องกลัวฉากบอกรักหวานซึ้ง ฉากขอแต่งงานอลังการ เพราะมันไม่มีให้คุณหรอกครับ เพียงแต่มันเล่าเสมือนชีวิตของเราจริงๆ เพราะเมื่อคนทั้งสองที่มีแผลในใจต้องมาเจอกัน พวกเขาเชื่อมสัมพันธ์กันได้ และช่วยกันแก้ปัญหา เหมือนๆกับคนทั่วไป

ไม่แปลกใจที่ทำไม Jennifer Lawrence เธอถึงได้สะดุดรับรางวัลจากหนังเรื่องนี้ บท Tiffany ของเธอมันได้แสดงสเน่ห์และฝีมือด้านการแสดงของเธอออมา แหม่ตกหลุมรักเลยครับ น่ารักและตีบทแตกแบบนี้ ไม่ตกหลุมรักก็แย่แล้วแหละ <3


หนังธรรมดาๆที่ไม่ธรรมดาเลย ความรักก็ยังคงเป็นสิ่งที่สวยงาม แม้ว่าคุณจะเจออะไรมาก็ขอให้ยิ้มและสู้ชีวิตต่อไปนะครับ (หนังไม่ใช่ชีวิตจริง แต่หากคุณประยุกต์และนำข้อคิดในเรื่องไปใช้ได้นั่นแหละคือคุณค่าที่แท้จริงของมัน)

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

The Hunger Game : Catching Fire



ถ้าคุณดูภาคแรกแล้วมีอาการดราม่าซึ้งใจไม่เพียงพอ ภาคนี้ยกกลับมาให้ถึงต่อมเลยทีเดียว เรียกได้ว่าตื่นเต้นขนลุกทั้งเรื่องเลยครับผม (CG อลังการมากครับ)


กลับมาที่เรื่องราว ซึ่งดำเนินต่อมาจากภาคแรก ซึ่งภาคนี้แคทนิส สาวน้อยผู้มากับไฟต้องแบกรับชะตากรรมในฐานะผู้พิชิต จากเกมครั้งที่ 74 ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องลำบากใจแน่ๆ เพราะมันเป็นรักสามเส้า ระหว่างเธอ พีต้า และเกล ซึ่งแค่รักยังไม่พอ แต่เธอกลับถูกดึงกลับเข้าไปเล่นเกมนี้อีกครั้ง แต่ว่าเกมนี้ไม่หมูเหมือนก่อนเพราะมันเป็นเกมที่เฉลิมฉลองทุกๆ 25 ปี ซึ่งนี่เป็นครั้งที่ 3 โดยเกมนี้จะนำผู้พิชิตของแต่ละครั้งกลับมาเล่นใหม่ ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่มีประสบการณ์และฝีมือสุดยอดกันทั้งนั้น แหม่งานนี้ไม่ง่ายแล้วแหละแคทนิส


คือผมขอบอกตรงๆว่าภาคนี้สนุกกว่าภาคก่อนมากกกก หนังดูมีมิติขึ้นเยอะ แหละสำหรับผมเองนั้น รู้สึกว่ามุมกล้องของภาคนี้ทำออกมาได้ดีกว่าเดิม ภาคที่แล้วแอบมึนหัวเล็กๆ นอกจากนั้นยังอุดมไปด้วยดราม่าภายในเรื่อง ซึ่งภาคนี้โปรยทางไว้สำหรับภาคที่ 3 ได้อย่างดีมากเลยครับ (จริงๆยังมีอีกเยอะที่ผมอยากจะพิมพ์ลงไป แต่มันถือว่าไปสปอยล์ซึ่งมันจะเสียอรรถรสไปเยอะมาก เพราะงั้นต้องติดตามเองครับ)


ส่วนตัวผมเองไม่ได้อ่านเป็นนิยายเรื่องนี้มา ก็เลยไม่อาจจะเปรียบเทียบได้ว่ามันสนุกหรือทำได้ดีเท่านิยายหรือเปล่า แต่บอกได้ว่าใครไม่ได้ดูภาคแรกมาอาจจะมีแอบงงเล็กๆนะครับ


สำหรับภาคต่อที่ทำได้ดีเรื่องนี้ ผมยกให้ 8.5/10 เลยครับ และอย่าลืมไปติดตามชม The Hunger Game : Catching Fire ในโรงภาพยนต์นะครับ

วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

A Beautiful Mind



สร้างจากเรื่องจริงของ John Nash นักคณิตศาสตร์ ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์


โดยเล่าเรื่องราวชีวิตของ John Nash ตั้งแต่สมัยเขายังเป็นนักศึกษาปริญญาเอก และเรื่องราวประหลาดๆ ที่ไม่มีใครอธิบายได้ เหมือนกับว่า Nash จะต้องเข้าไปพัวผันกับภารกิจช่วยเหลือประเทศชาติ !? เขากลายเป็นสายลับและนักถอดรหัส !? แล้วทำไมเขาถึงได้รางวัลโนเบล ? จุดนี้เองผมอยากจะให้พวกคุณเข้าไปชมเองครับ



แหม่ ใครจะคิดว่าหนังชีวประวัติของคนดังแบบนี้จะหักมุมได้สุดติ่งขนาดนี้ ถ้าใครอยากจะดูหนังที่ได้หลากอารมณ์ก็อยากให้ดูครับ ได้รู้จักชีวิตของ John Nash บวกอารมณ์ซึ้งๆ และมีหักมุมอีก คุ้มเลยเรื่องคุ้ม ! การันตีด้วย 4 ออสก้าร์เลยครับผม


ถึงแม้จะเป็นหนังเก่าแต่กลายเป็นหนังโปรดเรื่องหนึ่งของผมไปแล้ว ต้องหยิบมาดูหลายๆรอบเลยครับกับ A Beautiful Mind !

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

District 9


การเหยียดเชื้อชาติ เหยียดผิว หรือเหยียดเพศ ไม่ได้มีแค่ในสังคมมนุษย์อีกต่อไป เพราะหนังเรื่องนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของการถูกแบ่งชนชั้น หรือสองมาตรฐานในระดับเอเลี่ยน !


หนังเรื่องนี้เคยเป็นที่ฮือฮามาก่อนเพราะได้ผู้กับกับชาวแอฟฟริกาผู้ที่ไปสัมผัสชีวิตในเมืองที่มีนโยบายการกีดกันสีผิวมาก่อน



โดยหนังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่พวกเอเลี่ยนหน้าตาคล้ายกุ้ง ตกและต้องลี้ภัยมาอยู่บนโลกทำให้เมืองโจฮันเนสเบิร์กถูกแบ่งเป็นเขตระหว่างมนุษย์และพวกกุ้ง แต่ทว่าพวกมนุษย์กลับมองและกระทำต่อพวกเขาเสมือนกับพวกประหลาด โดยเหยียดและกีดกันของพวกเขา


MNU องค์กรสำคัญเข้ามาแทรกแซง มีความต้องการจะย้ายพวกต่างดาวไปอยู่ที่อื่น และวีกัส พนักงานที่ต้องลงภาคสนามเข้าไปเพื่อสั่งอพยพ แต่เกิดซวยติดเชื้อไวรัสของต่างดาวเข้าให้ งานนี้เรียกว่าซวยสุดๆไปเลย เพราะเขากำลังกลายสภาพเป็นพวกเอเลี่ยนกุ้งไปเรื่อยๆ นี่เองเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องที่พวกคุณต้องไปติดตามความมันส์กันเองครับ


แหม่ สำหรับหนัง Sci-fi สนุกๆ เนื้อเรื่องมันส์น่าติดตามซึ่งมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนเรื่องไหนๆ แถมแฝงด้วยสิทธิมนุษยชนด้วยแล้ว รับรองว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้หยุดดูไม่ได้เลย ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง !

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

The Internship


ทุกคนในยุคนี้ ลูกเล็กเด็กแดง หากไม่รู้จักกูเกิ้ลแล้วนั้น สงสัยว่าคุณจะต้องพิจารณาตัวเองใหม่เสียแล้วครับ เพราะกูเกิ้ลเป็น อันดับ 1 ด้านสวัสดิการให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าดินแดนในฝันของเด็กจบใหม่เลยทีเดียว


หนังเรื่องนี้เดินเรื่องราวง่ายๆด้วย ชายวัยกลางคน 2 คน คู่หู่เซลล์ขายนาฬิกา แต่ว่าชีวิตพลิกผัน บริษัทปิดตัวลง ทั้งคู่จึงต้องตามหางานใหม่ แต่แหม คุณลุงๆ 2 คนนี้เขาก็ไม่ได้ไฮเทคเอาเสียเลย แต่ก็ทุบหม้อข้าวตัวเองเข้าฝึกงานกับกูเกิ้ล แต่ชีวิตในนั้นก็ไม่ง่าย เพราะลุงๆต้องไปฝึกงานกับเด็กๆจบใหม่วัยแรง แถมลุงๆก็ทำอะไรไม่เป็นเอาเสียเลย เรื่องราว ฮาๆของ 2 ลุงในการฝึกงานกับกูเกิ้ลจะเป็นอย่างไร ก็ขอให้ไปติดตามชมกันครับ


ถึงแม้จะทำคะแนนใน imdb ไปได้เพียง 6.2 แต่ผมกลับมองว่าเป็นหนังที่มอบแรงบัลดาลใจให้อย่างดี ไม่ใช่แค่ลุงๆที่ตกงานในวันนี้ แต่รวมไปถึงเด็กๆจบใหม่เพราการแข่งขันในชีวิตจริงมันสูงมาก แต่การที่ได้ลุงที่ทำอะไรไฮเทคไม่เป็นเลยมาอยู่ในทีมก็ใช่ว่าจะโชคร้าย เพราะลุงๆมีประสบการณ์ในด้านอื่นสูงมาก


สำหรับผมแค่ได้ดูความเจ๋งของบริษัทกูเกิ้ล บวกได้ดูอะไรฮาๆแฝงข้อคิด แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ
( แต่แอบมีเซอไพรส์ตอนท้ายเรื่องด้วยครับ ^__^ )

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Ender's Game




เมื่อสงครามที่ผู้ใหญ่ทำไม่ได้ เหล่าเด็กๆทั้งหลายจึงกลายเป็นความหวังของมนุษยชาติ หนัง Sci-fi สุดยอดอีกเรื่องที่ได้ Harrison Ford เจ้าพ่อหนัง Sci-fi นำทัพนักแสดงมาจัดหนัก พ่วงด้วยเนื้อเรื่องสุดลึกซึ้งใน Ender's Game


โดยเนื่อเรื่องจะเล่าถึงเหตุการณ์หลังจากเอเลี่ยนโจมตี เด็กหนุ่มชื่อเอนเดอร์ อัจฉริยะอายุน้อยของโลกถูกบรรจุเข้าฝึกในหน่วยรบของทหาร ซึ่งตอนนั้นเด็กๆจะเป็นความหวังของโลก เพราะเด็กสามารถใช้สัญชาติญาณได้มากกว่าผู้ใหญ่ ทั้งยังโตมากับเกม ในเรื่องจะเล่าว่าเอนเดอร์นั้นเทพแค่ไหน แล้วทำไมเขาถึงสำคัญนัก กุญแจที่จะจบสงครามนี้คืออะไร โปรดติดตามชมใน Ender's Game


ความโหดร้าย และความรัก หากสองสิ่งนี้สมดุลในฐานะผู้นำ คุณจะกลายเป็นสุดยอด เอนเดอร์ต้องแบกรับความโหดร้าย และความโดดเดี่ยวในฐานะผู้นำ เขาจะต้องถูกฝึกเพื่อกลายเป็นผู้นำกองทัพของโลก !


เป็นหนังที่สุดยอดอีกเรื่องเลยครับ ถึงแม้ในเรื่องมันจะไม่ได้รบอะไรกันมากมาย แต่ CG นับว่าโหดโครต สวยงามที่สุดเลย นักแสดงวัยรุ่นก็เล่นกันได้สุดยอดมากๆ สวยหล่อกันทุกคน ผมชอบแนวคิดของหนังเรื่องนี้นะครับ ยิ่งตอนจบคุณจะยิ่งทึ่งและตกใจ เพราะงั้นห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

8/10 เลยครับผมสำหรับเรื่องนี้

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Planes




เมื่อโลกของ Cars ยังไม่จบ เหล่ารถซึ่งอาจจะจบเรื่องไปแล้ว แต่เจ้าเครื่องบินพวกนี้เพิ่งเริ่มเท่านั้น

เมื่อดัสตี้ เครื่องบินพ่นปุ๋ยจากบ้านนอกนิสัยดี มีความฝันอยากจะแข่งบินระดับโลก แต่เขาก็ยังไม่อยากจะหยุดมันแค่ความฝัน โดยการทำตามฝันนี้มีเพื่อนๆและคนรอบข้างเขาได้ช่วยเหลือไว้มากมาย และสำคัญที่สุดครูที่สอนเขาบิน สกิปเปอร์ เครื่องบินรบรุ่นคุณปู่


สำหรับในหนังแอนิเมชั่น ผมก็ชอบ Cars เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มาดูเรื่องนี้ผมก็ค่อนข้างคาดหวังไว้มาก แต่ดูๆไปผมกลับรู้สึกชอบ Carsทั้ง 1 และ 2 มากกว่า ไม่ใช่ว่าหนังทำออกมาไม่ดีนะครับ ดีเลย สนุกใช้ได้เลย เพียงแต่ความประทับใจตอนดูมันมากไม่เท่า แค่นั้นเอง



มันคือแอนิเมชั่นหนะครับ เพราะอย่างนั้นอย่าไปใส่ใจเรื่องความสมจริงอะไรซักเท่าไหร่เลย เพราะผมก็คิดว่าเครื่องบินพ่นหญ้าบินรอบโลกได้มันก็เกินจริงไปหน่อยแล้ว แต่ก็นะ ไม่โม้หนังก็ไม่สนุกสิ แต่ภาพกับฉากมันได้อารมณ์มากกว่าเจ้าพวกรถนะ ท้องฟ้า หน้าฝน หิมะตกอะไรพวกนี้ เครื่องบินทำออกมาได้สวยหรูใช้ได้เลยครับ


สำหรับคะแนนผมให้ 7.5/10 ครับผม อย่าพลาดละ เหล่าเครื่องบินรอคุณอยู่ !

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Escape Plan

คำเตือน ! บทความนี้อาจมีการสปอยล์อยู่ กรุณามีสติระหว่างอ่าน

ในเมื่อแต่ละคนมีพรสวรรค์ที่ต่างกัน แล้วเหตุไฉนคนเราจะมีคนที่มีความสามารถแหกคุกที่ไหนก็ได้ในโลกไม่ได้กันเล่า ?

เรย์ เบรสลิน นักแหกคุก เจ้าของธุรกิจความปลอดภัยและเขียนหนังสือเกี่ยวกับการแหกคุก หลายปีมานี้เขาได้แหกคุกต่างๆมามากมาย กว่า 10 แห่ง


จู่ๆวันนึงเบรสลินก็งานเข้า เมื่อเขาต้องรับงานที่คุกปริศนา โดยเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เขาถูกตัดขาดจากทีมระหว่างเดินทางไปคุก เมื่อรู้สึกตัวเขาก็อยู่ในคุกปริศนา แถมยังถอนตัวไม่ได้ เขาต้องคิดและจำเป็นต้องแหกคุกออกไปลากตัวคนที่ตั้งใจจะขังเขาไว้ที่นี่ตลอดกาล



แต่อะไรๆก็ไม่ได้ง่ายดาย เพราะที่นี่ผู้คุมโหดและการป้องกันเข้มมาก ซึ่ง รอทเมเยอร์ ขาใหญ่ของที่นี่ช่วยเหลือเบรสลินไว้ โดยเบรสลินกับรอทเมเยอร์ต้องช่วยเหลือกันและกันเพื่อออกจากคุกแห่งนี้


เป็นหนังที่น่าสนใจมากเรื่องนึงครับ เพราะในหนังช่วงต้นจะเป็นการใช้สมองซะมาก แต่ท้ายเรื่องยิงกันเกลื่อน เป็นการผสมช่วงคิดกับช่วงบู๊ได้พอดีๆ ไม่น่าแปลกที่ได้ คะแนนจาก imdb ไปถึง 7.4

ส่วนตัวผมเองให้ 8/10 ครับผม