วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

500 Days of Summer

คำเตือน ! บทความนี้อาจมีการสปอยล์อยู่ กรุณามีสติระหว่างอ่าน


ทอม ชายหนุ่มที่เชื่อว่ารักแท้นั้นมันมีอยู่จริง แต่ซัมเมอร์ สาวสวยที่เธอเองก็นั้นไม่ได้ศรัทธาเรื่องที่จะรักใครซักคนจริงๆ เมื่อทั้งคู่ที่มองโลกต่างกันต้องโคจรมาเจอกัน ซึ่งทอมก็หลงรักเธอเข้าเต็มประตู หรือนั่นจะเป็นพรหมลิขิตของทอม !?

หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนคือพวกเขาอยู่ในโลกที่มันต่างกัน มันเริ่มต้นโดยทอมนั้นอยู่ในโลกแฟนตาซีที่เขาจินตนาการขึ้นมาเอง แต่สุดท้ายก็ต้องมาจบลงในโลกแห่งความเป็นจริง ขณะที่ซัมเมอร์เธอตระหนักถึงความเป็นจริงของชีวิตอยู่ก่อนแล้ว


ผมอุทานได้คำเดียวตอนดูจบนะครับ "ว้าว" มันไม่ใช่หนังรักธรรมดาอะ ทั้งวิธีเล่าเรื่องทั้ง 500 วัน ทั้งอารมณ์ที่มันส่งกันได้ของนักแสดงทั้งคู่ (ทั้งโจเซฟ และซูอี้) และที่โหดร้ายสุดๆคือหนังมันบีบอารมณ์ผมได้นี่แหละที่น่ากลัว แรกๆก็สบายๆนั่งยิ้มฮาๆ แต่ตอนใกล้ๆจบผมถูกทำให้รู้สึกกดดันซะอย่างนั้น ดูจบก็รู้สึกว่านี่ฉันโลกสวยหรอเนี่ย (๕๕๕)

อีกอย่างที่ผมชอบมากระหว่างที่ดูคือมีคำพูดเด็ดๆออกมาให้ฟังกันตลอด เช่น

Summer: I just... I just woke up one day and I knew. (ชั้นแค่ตื่นขึ้นมาวันนึงแล้วก็รู้)
Tom: Knew what? (รู้อะไร?)
Summer: ...What I was never sure of with you. (สิ่งที่ชั้นไม่เคยมั่นใจกับคุณ)

ฟังจากคำของซัมเมอร์คุณก็พอจะเดาๆได้ เพราะความรักจริงๆมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราบอกตัวเองว่าเนี่ยคนนี้แหละคือพรหมลิขิตของเรา แล้วเขาหรือเธอคนนั้นจะเป็นจริงๆ มันอยู่กับหลายปัจจัยอย่างจังหวะและช่วงเวลา ขอให้คุณอยู่ความเป็นจริงไม่ใช่มโนไปเองว่านั้นคือรักแท้




เป็นหนังที่นำเสนอดีครับ นักแสดงก็เล่นกันเก่งสมบทบาท และถ้าหากคุณจะดูหนังเรื่องนี้คำแนะนำเดียวที่ผมให้ได้คือคุณเตรียมตัวของคุณไปให้พร้อมรับความจริงที่มันออกจะโหดร้ายไปซักหน่อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น